รูปถ่ายติดวิญญาณ

ฮือฮาภาพถ่ายติดวิญญาณ เขย่าขวัญสั่นประสาททั่วเมืองปัตตานี

หลังมีเจ้าของร้านอาหาร เอามือถือรุ่นถ่ายภาพได้ ถ่ายภาพลูกหลานในห้องพัก ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา พอนำมาเปิดดู แทบช็อกมีภาพลาง ๆ เป็นผู้หญิง ไว้ผมยาว และแขนขายาวกว่าคนปกติทั่วไป นุ่งกางเกงในตัวเดียว ยืนแอ๊กท่าอยู่ในรูปด้วย เอาไปให้พระที่เชี่ยวชาญทางด้านนั่งทางในดู ระบุเป็นหญิงวัยรุ่นที่ถูกฆาตกรข่มขืนฆ่าตายไปเมื่อ 14-15 ปีก่อน พร้อมระบุชื่อนามสกุลให้เสร็จ

ขนลุกซ้ำพอไปตรวจสอบประวัติ พบมีผู้หญิงชื่อนามสกุลนี้

และโดนฆ่าตายไปแล้วจริง ด้าน “ป๋องผี” ดีเจผีชื่อดังถึงกับอุทาน ไม่ฟันธงจริงหรือไม่ แต่เชื่อถ่ายจากโทรศัพท์ตัดต่อยาก ส่วนที่เมืองระนองสาวใหญ่อ้างตั้งครรภ์นาน 3 ปี พอเด็กคลอด เด็กหนีหายไปเฉย ๆ ทิ้งไว้เพียงแค่รอยเท้าเปื้อนเลือดเท่านั้น ด้าน รพ.แฉเป็นคนไข้จริง เคยมาตรวจเจ็บศีรษะ และมีเลือดไหลเล็กน้อยที่ช่องคลอด แต่ไม่ได้ตั้งครรภ์


ฮือฮาภาพถ่ายติดวิญญาณครั้งนี้ เปิด เผยขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ได้รับภาพทางโทรศัพท์มือถือจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็นภาพเด็กผู้หญิงอายุราว 10 ขวบเศษ ยืนอยู่ในห้องพัก โดยข้างซ้ายมือของเด็กคนในรูป มีภาพราง ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง ไว้ผมยาว แขน ขายาวกว่าคนปกติทั่วไป นุ่งกางเกงในสีฟ้าตัวเดียว โดยเพื่อนคนดังกล่าวที่ส่งภาพมาให้อ้างว่า เจ้าของกล้องซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ปัตตานี ได้ถ่ายภาพลูกหลานไว้ดูเล่น ภายในห้องพักเมื่อวันจันทร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยวันดังกล่าวเป็นวันวิสาขบูชาพอดี

หลังจากได้ถ่ายไปหลายรูป เลยเปิดภาพที่ถ่ายดู ปรากฏว่าทุกภาพไม่มีอะไรผิดปกติ

มีอยู่เพียงภาพเดียว คือภาพที่ถ่ายหลานสาว โดยซ้ายมือของหลาน มีภาพราง ๆ สีดำคล้ายผู้หญิงไว้ผมยาว นุ่งกางเกงในตัวเดียว ยืนแอ๊คท่าอยู่ข้าง ๆ แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวไม่เหมือนคนทั่วไป เนื่องจากมีแขนขายาวกว่าปกติ ทั้งที่เวลาถ่าย ขณะนั้นได้ถ่ายภาพหลานคนเดียว ไม่มีใครยืนถ่ายรูปร่วมด้วย อีกทั้งญาติพี่น้องที่อยู่ในห้อง ไม่มีผู้หญิงที่มีรูปร่าง หรือแต่งกายเหมือนผู้หญิงในภาพแต่อย่างใดสักคน

ทำให้เป็นที่แปลกประหลาดใจ ให้กับเจ้าของกล้องและญาติ ที่อยู่ในห้องเป็นอย่างมาก

บางคนเมื่อดูภาพแล้ว ถึงกับมีอาการขนลุกซู่ขึ้นมาทันที จากนั้นได้มีการส่งภาพดังกล่าวไปให้คนรู้จักหรือเพื่อนสนิทดู เพื่อช่วยกันวิเคราะห์ว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพวิญญาณ หรือเกิดจากอะไรกันแน่ กระทั่งเป็นที่โจษขานกันทั่วเมืองปัตตานี ขณะเดียวกันเจ้าของร้านอาหารที่ใช้มือถือถ่ายรูป ได้นำภาพปริศนาไปให้พระภิกษุสงฆ์ ที่เชี่ยวชาญการนั่งทำสมาธิหรือดูทางในดู โดยพระรูปดังกล่าว หลังจากนั่งหลับตาเพ่งสมาธิดูแล้ว

สักพักได้หยิบปากกาที่วางอยู่ข้างหน้า ขึ้นมาเขียนบนกระดาษ

เป็นชื่อนามสกุลผู้หญิงคนหนึ่ง พอออกจากสมาธิแล้ว พระรูปดังกล่าวบอกว่า ผู้หญิงที่อยู่ในภาพถ่าย เป็นผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ถูกข่มขืนและฆ่าทิ้ง นำศพไปหมกพงหญ้าเมื่อ 14-15 ปีก่อน ซึ่งพงหญ้าจุดที่ทิ้งศพ คือบริเวณที่เดียวกับร้านอาหาร จากนั้นเจ้าของร้านอาหารได้ไปตรวจสอบประวัติ พบว่ามีชื่อนามสกุลผู้หญิงคนนั้นจริง ที่สำคัญได้ถูกคนร้ายข่มขืนและฆ่าตายไปแล้ว ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของพระรูป ดังกล่าว 


ช็อก!ภาพติดวิญญาณ ผีแอบโผล่มาด้านหลัง ลือเป็นอดีตนางงามโบราณ 
 
ตะลึง!ภาพ ถ่ายประหลาดถ่ายติดวิญญาณโผล่หลังนางงามโคราช น.ศ.สาวคนที่ถ่ายเผยเป็นภาพถ่ายเวทีประกวดนางสาวโคราช ประจำปี"54 เป็นรูปนางงานคนเก่าก่อนส่งมอบตำแหน่งให้คนใหม่ ดันพบว่ามีภาพหญิงชรา สวมชุดแดงยืนอยู่ด้านหลังนางงาม ทั้งที่ตอนที่ถ่ายไม่มีคนยืนอยู่ ลือหึ่งเป็นวิญญาณนางงามสมัยโบราณที่เคยสวมชุดนี้มาปรากฏให้เห็น
 
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากน.ส. พรสงกรานต์ หรือน้องมะหนุ่ย ประจง อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจ.นครราชสีมาว่า ตนถ่ายรูปขณะน.ส.กิติอาภา หรือน้องแป๋ม เหมนิธิ นางสาวนครราชสีมา ปี 2553 ซึ่งกำลังรอส่งมอบตำแหน่งให้กับผู้ได้รับตำแหน่งคนใหม่ ประจำปี 2554 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าเมื่อนำมาดูพบว่าในภาพถ่ายมีใบหน้าประหลาด ดูเหมือนเป็นภาพผู้หญิงแก่ ใส่ชุดแดง ยืนอยู่ด้านหลังน.ส.กิติอาภา
 
น.ส.พร สงกรานต์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนไปร่วมงานประกวดนางสาวนครราชสีมาเพื่อถ่ายรูปให้เพื่อนคือ น้องแป๋ม นางสาวนครราชสีมา ประจำปี 2553 ที่จะส่งมอบตำแหน่งให้กับนางสาวนครราชสีมาคนใหม่ ซึ่งช่วงที่ถ่ายเป็นเวลา 21.30 น. ขณะที่เพื่อนเตรียมขึ้นเวที ตนและเพื่อนชื่อโบ ขอให้ช่วยถ่ายรูปคู่กับน้องแป๋ม 7 รูป โดยถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากชุดที่แป๋มใส่เป็นชุดเก่าแก่ของการประกวดนางสาวนครราชสีมาที่ประ ดับด้วยคริสตัล
 
"จากนั้นแป๋มได้ขึ้นเวทีเพื่อส่งมอบตำแหน่ง เมื่อถ่ายเสร็จจึงนำภาพไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก และเดินทางกลับบ้านตามปกติ แต่เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. เพื่อนชื่อโบที่เป็นคนถ่ายรูปคู่กับแป๋ม ได้เปิดดูรูปในเฟซบุ๊กที่ได้ลงภาพไว้ ปรากฏพบร่างผู้หญิงแก่ยืนอยู่ด้านหลังของแป๋ม จึงได้โทรศัพท์มาถามถึงตอนที่ถ่ายมีผู้หญิงมายืนอยู่ด้านหลังหรือไม่ จึงได้บอกไปว่าไม่มี เนื่องจากบริเวณที่ถ่ายด้านหลังเป็นกำแพงด้านข้างของเวที" น.ส.พรสงกรานต์กล่าว
 
น.ส.พรสงกรานต์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าไม่มีใครมายืนด้านหลังแป๋มอย่างแน่นอน เมื่อกลับไปถึงบ้านจึงรีบเปิดดูรูปในเฟซบุ๊ก เมื่อขยายภาพดูแทบช็อก เมื่อพบภาพที่ปรากฏด้านหลังของแป๋มเป็นผู้หญิงแก่สวมชุดสีแดง ลักษณะคล้ายคนสมัยโบราณยืนอยู่ด้านหลังจริง และต้องตกใจอีกครั้งเมื่อแป๋มเห็นภาพถ่ายที่เพื่อนนำมาให้ดูว่าเป็นคนเดียว กับที่ฝันเห็นเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาส่งมอบตำแหน่งนางสาวนครราชสีมา
 
น.ส.พรสงกรานต์ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 26 มี.ค. แป๋มและโบต่างพากันไปสอบถามผู้จัดการประกวด โดยเปิดรูปที่ถ่ายให้ดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รูปผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ใช่คน น่าจะเป็นภาพวิญญาณ ผู้จัดการประกวดจึงให้แป๋มและโบไปสอบถามที่ร้านเช่าชุดที่ใส่ในวันงาน ได้รับคำตอบจากร้านเช่าชุดว่า เท่าที่ทราบจากการเล่าปากต่อปาก ชุดที่แป๋มใส่ในวันนั้น เป็นชุดเก่าแก่ของการประกวดนางสาวนคร ราชสีมา นับตั้งแต่มีการจัดประกวดขึ้นมา และเจ้าของชุดนี้รักมาก และไม่ชอบให้ใครมาเหยียบหรือถือชายกระโปรงของชุดนี้เป็นอย่างมาก
 
ผู้สื่อข่าวได้ถามน.ส.พรสงกรานต์ว่า ในวันที่มีการส่งมอบตำแหน่งมีใครไปเหยียบหรือถือชายกระโปรงดังกล่าวหรือไม่ น.ส.พรสงกรานต์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ถือชายกระโปรงที่แป๋มใส่ อีกทั้งได้บ่นกับแป๋มว่า ทำไมผู้จัดการประกวดถึงให้แป๋มใส่ชุดที่โบราณกว่าคนอื่น ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นเจ้าของชุดไม่พอใจตนที่ไปลบหลู่ ทำให้ดวงวิญญาณมาปรากฏตนให้เห็น







25030950856m1.gif

ภาพนี้เมื่อครั้งนั้น อ.ศักดิ์สิทธิ์ ทำการถอดถอนศาลผี (ศาลเจ้าแม่)
โดยอาจารย์ได้นิมิตผ้ายันต์คลุมไว้ที่ศาลเจ้าแม่ แล้ว อ.ศักดิ์สิทธิ์ บอกว่าให้ถ่ายภาพที่ศาลเจ้าแม่ไว้ ผลปรากฏว่าภาพที่ออกมาจึงเป็นเช่นนี้แหล่ะ เงาดำๆ นั้นเป็นพลังของเจ้าแม่ ภาพสี่เหลี่ยมสีขาวนั้นเป็นนิมิตผ้ายันต์ของ อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่คลุมตัวศาลไว้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ต่อผู้พบเห็นครับ โดย ทีมงานพรหมศาสตร์
เมื่อ 17/8/2551 – 8:17:11



29030980704m1.gif

 
ปราสาทเก่าแก่
บีบีซีนิวส์ของอังกฤษแพร่ภาพถ่าย ติดวิญญาณที่ชัดเจนที่สุดในโลก จากการโหวตของประชาชนที่มีคนส่งภาพมาให้ช่วยตรวจสอบกว่า 250 ภาพจากทั่วทุกมุมโลก ปรากฏว่าเป็นภาพน่าขนหัวลุกของคนที่สวมเครื่องแต่งกายโบราณยืนมองลอด หน้าต่างของปราสาทในสกอตแลนด์ มีคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นกษัตริย์เจมส์ที่ 5 แห่ง สกอตแลนด์ก็เป็นได้ ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ไม่มีการแต่งภาพแน่นอน
บี บีซีนิวส์รายงานจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่า ศาสตรา จารย์ ริชาร์ด ไวส์แมน นักจิตวิทยาผู้ศึกษาในเรื่องปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมาแล้วหลายแขนง จึงได้แนวคิดในอันที่จะตรวจสอบเรื่องภาพถ่ายติดวิญญาณเมื่อช่วงกว่าหนึ่ง เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นจึงร้องขอให้บุคคลทั่วไปช่วยส่งภาพถ่ายที่เชื่อว่าสามารถถ่ายติด วิญญาณได้มาให้นัก วิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งก็ปรากฏว่าได้รับภาพถ่ายจาก ทั่วทุกมุมโลกกว่า 250 ภาพ ที่เชื่อว่าถ่ายติดวิญญาณ จากนั้นจึงให้ประชาชนทั่วไปช่วยกัน โหวตว่า ภาพใดสมควรจะเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณ ที่ชัดเจนที่สุดในโลก

ปรากฏว่าภาพ ที่ได้รับการโหวตมากที่สุดนั้น เป็นภาพที่ถ่ายไว้เมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว เป็นภาพของบุคคลหนึ่งซึ่งไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นชายหรือหญิง สวมผ้าที่พับเป็นแผงใช้สวมรอบคอในศตวรรษที่ 16-17 มองลอดผ่าน กรงเหล็กกั้นหน้าต่าง อยู่ที่ปราสาทแทนทาล ลอน ในนอร์ธ เบอร์วิค เมืองอีสต์ โลเธียนของสกอตแลนด์ ผู้ที่ถ่ายภาพนี้ไว้เป็นนักท่องเที่ยวชื่อนายคริสโตเฟอร์ อิทชิสัน กล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่ามีอะไรมาปรากฏในภาพถ่ายของตน ตนเพิ่งมาพบข้อผิดสังเกตเมื่อกลับมาถึงบ้าน ตนยืนยันว่าไม่เคยเห็นหญิงสูงวัยสวมชุดแต่งกายโบราณเดินรอบบันได
ขณะ ที่ถ่ายภาพดังกล่าวก็ไม่มีใครยืนอยู่แถวนั้นอย่างแน่นอน ไม่มีการใช้หุ่นสวมเครื่องแต่งกายโบราณในปราสาท และไม่มีมัคคุเทศก์ในพื้นที่ที่สวมเครื่องแต่งกายโบราณ ตนได้ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพมาตรวจสอบภาพนี้แล้ว ยืนยันว่า ไม่มีการตกแต่งภาพแต่อย่างใด “บางคน อาจคิดว่าอาจเป็นแสงที่ตกมากระทบกับก้อนหินจึงเกิดเป็นภาพนี้ขึ้นมา แต่มีอยู่คนหนึ่งที่บอกว่า ภาพนี้อาจเป็นกษัตริย์เจมส์ที่ 5 แห่ง สกอต แลนด์” นายอิทชิสันกล่าวในที่สุด
ด้านศาสตราจารย์ริชาร์ด ไวส์แมน กล่าวด้วยว่า ตนเองในฐานะผู้ที่ศึกษาเรื่องความลี้ลับของวิญญาณนั้น บอกได้เลยว่า ใบหน้าต่าง ๆ ที่ในชีวิตคนเราต้องเห็นนั้น ได้โปรแกรมสมองของคนเราให้จดจำเอาไว้ เมื่อได้เห็นภาพใบหน้าเหล่านั้นอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่มีจริงก็ตาม ตนเชื่อว่าอาจมีคนอื่นอีกที่ได้เห็นใบหน้าที่แปลก ๆ เช่นนี้ และบางทีอาจมีชัดเจนกว่านี้อีก
โครงการประกวดภาพถ่ายติดวิญญาณที่ ชัดเจนที่สุดในโลกนี้เป็นส่วนหนึ่งของ เทศกาล วิทยาศาสตร์นานาชาติเอดินบะระ ซึ่งจะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือหรือแสดงความคิดเห็นสักหนึ่งวันในงานเทศกาลนี้ โดยตั้งชื่อว่า “สิ่งลี้ลับ” แล้วก็จะมีการนำหลักฐานที่มีมาวิเคราะห์และตรวจสอบว่า ผีมีจริงหรือไม่ ขณะที่ ดร.แคโรไลน์ วัตต์ ผู้ร่วมจัดงานจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ กล่าวเสริมว่า แม้มีหลักฐานภาพถ่ายที่สาธารณชนส่งเข้ามามากมายเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ แต่ภาพเหล่านี้ก็ยังไม่ปรากฏหลักฐานของวิญญาณ และถ้าวิญญาณมีอยู่จริงก็คงจะอายกล้อง ไม่กล้าออกมาให้เห็น.